สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด เดินเครื่องโรงงานนมยูเอชที
นางสาวกุหลาบ นามแสงโคตร ผู้จัดการสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร
กล่าวถึงการสร้างโรงงานนม
ยูเอชทีว่า เนื่องจากปัญหาในเรื่องของค่าจ้างในการผลิตนม
ค่าขนส่งทั้งไป- กลับ ปัญหาเรื่องคุณภาพของนม และปัญหา
เรื่องนมล้นตลาดในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งผู้ประกอบการรับซื้อน้้านม
ไม่สามารถรองรับน้้านมเราได้หมด ท้าให้นมที่เหลือ
เน่าเสีย และต้องเททิ้ง
จึงท้าให้มีแนวคิดที่จะสร้างโรงผลิตนมยูเอชทีขึ้นมา เพื่อรองรับปัญหาตรงนี้
ซึ่งได้เริ่มด้าเนินการ
ตั้งวันที่ 24 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา
โดยงบประมาณที่น้ามาใช้ในการก่อสร้างจ้านวน 46 ล้านบาท ซึ่งได้มาจากการรับ
ฝากเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขสกลนคร จ้ากัด
โดยโรงงานนมยูเอชทีนี้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเกษตร
ที่เลี้ยงโคนมว่า ช่วงปิดเทอมไม่ต้องหวั่นวิตกว่า นมจะเททิ้ง
และโคนมเป็นอาชีพที่เกษตรกรมั่นใจได้ว่า มั่นคงไปตลอด
ไม่ว่าจะเป็นช่วงปิดภาคเรียน หรือเปิดภาคเรียน อย่างไรก็ดี
สหกรณ์ได้รับการแนะน้าจากบริษัทอุตสาหกรรมนมไทย
ช่วยแนะน้าในการจัดการวางแผนการผลิต และการควบคุมก้าลังคน
ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตของโรงงานนมยูเอชที เฉลี่ยละ 10 ตัน/วัน อาทิตย์ละ 6 วัน ส่วนปริมาณการรับซื้อน้้านม
ดิบจากเกษตรกร 24 ตัน/วัน
โดยเกษตรกรโดยทั่วไปสหกรณ์จะรับซื้อตามราคากลาง คือ กิโลกรัมละ 17 บาท แต่สมาชิก
สหกรณ์จะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 16.60 บาท เพราะมีส่วนต่างในเรื่องของต้นทุน
และการปันผลในช่วงสิ้น
ปีงบประมาณ อย่างไรก็ตาม นมยูเอชที ที่สหกรณ์ผลิตได้
จะน้าส่งให้กับโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน เพียงแห่งเดียว
เพราะสหกรณ์ผลิตแต่นมชนิดจืดเท่านั้น และส่วนนมพาสเจอร์ไรส์
เราจะส่งเฉพาะโครงการนมโรงเรียน โดยช่วงเปิด
เทอมจะส่งเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ ช่วงปิดเทอมจะเป็นนมกล่องโดยที่สหกรณ์ผลิตเอง
โดยปริมาณนมที่สหกรณ์ผลิตส่ง
ให้กับโครงการนมโรงเรียนจะอยู่ที่ 130,000 ถุง/วัน ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร
และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง อาทิ จังหวัด
อุดรธานี นครพนม มุกดาหาร หนองคาย และกาฬสินธุ์
นอกจากนี้ ยังการแลกเปลี่ยนสินค้านมกล่อง กับวัตถุดิบ เช่น มันเส้น
ร้าอ่อน กับทางประเทศลาว โดยวิธีการซื้อ
เงินสด ทางประเทศลาวก็ซื้อสดนมเราไป และทางเรา
ก็ซื้อสดวัตถุดิบจากประเทศลาว มาจ้าหน่ายให้กับสมาชิก เพื่อ
น้าไปท้าเป็นอาหารให้กับโคนม แต่ก็ต้องดูภาวะราคาด้วย
หากราคาแพงกว่าประเทศไทย เราก็จะไม่ซื้อ เพราะสหกรณ์จะ
เน้นในเรื่องของการลดต้นทุนให้กับสมาชิก
“ก้าลังการผลิตของโรงงานนมยูเอชทีขณะนี้ 1.25 ตัน/ชั่วโมง
ซึ่งสามารถที่จะพอเลี้ยงตัวเองไปได้ โดยไม่ต้อง
ไปอาศัยคนอื่นหายใจ ที่ผ่านมา ยอมรับว่า เราใช้จมูกคนอื่นหายใจ
อย่างเช่น น้้านมดิบล้นตลาด ต้องไปอ้อนวอน
ผู้ประกอบการให้รับซื้อในราคาที่ต่้ากว่าทุน
แต่หลังจากมีโรงงานนมยูเอชที เราสามารถพึ่งตัวเองได้ ทั้งนี้ หากมีก้าลังการ
ผลิตเหลือ ก็จะสามารถช่วยเหลือสหกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย”
โครงการในการช่วยเหลือสมาชิก สหกรณ์ได้ปล่อยสินเชื่อซื้อแม่โค
เพื่อเป็นการเพิ่มวัตถุดิบให้กับสหกรณ์
สมาชิกก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และขยายฟาร์มสมาชิกขนาดเล็ก
ให้เป็นฟาร์มขนาดกลาง และฟาร์มขนาดกลางให้เป็น
ฟาร์มขนาดใหญ่ ส่วนรายละเอียดของโครงการ สหกรณ์จะปล่อยเงินกู้ให้
กับสมาชิกรายละ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน
200,000 บาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 9 บาท/ปี